อนึ่ง เพิ่งเห็นว่าไม่ได้เขียน blog มาสักพักใหญ่แล้ว เลยปัดฝุ่นแล้วเขียนอะไรสักหน่อยค่ะ 😁
น่าจะเล่าไปเรื่อย ๆ คิดอะไรออกก็เล่า อย่างเช่น พล็อตนิยายใหม่ 2 เรื่องนี้
เรื่องแรก (นักฆ่า) จริง ๆ แล้วคิดพล็อตมาได้สักพักใหญ่แล้วค่ะ เรื่องนี้อยากลองเขียนเซตติ้งประเทศไทยยุคปัจจุบันดู แต่เขียนแนวรักกันเฉย ๆ ไม่ได้ ขอใส่เอเลเมนต์ถนัดเข้ามาสักหน่อย 555 เลยกลายเป็นนักฆ่าเฉย แต่ก็เป็นแนวแอคชัน/โรแมนติกนั่นแหละนะคะ
โทรปที่อยากลองคือ rivals-to-lovers เพราะเราชอบคู่หลักที่ตบตีกันตลอด /สูดยาดม แต่ด้วยความที่เป็นคู่แข่ง/คู่กัดกันมาตั้งแต่สมัยวัยเรียน ก็คงไม่ถึงขั้นเกลียดกันระดับจะฆ่ากันหรอก แต่ตีกันตายแน่นอน ต้องทำงานร่วมกัน ขึ้นเขาลงห้วย ตากฝน ซ้อนท้ายมอไซค์ (?) แย่งผ้าห่มบนเตียงเดียวกัน (??)
ก่อนจะคิดพล็อตนิยายได้ เซตติ้งก็มาก่อนเป็นอันดับต้น ๆ อย่างเช่นเคย ✨ อยากลองเขียนเกี่ยวกับประเทศไทยในจักรวาลคู่ขนาน หากมีสถาบันนักฆ่าสาย nihilism มาตั้งแต่สมัยสงครามเย็นจะเป็นยังไงน้อ? มีหลายเอเลเมนต์ที่อยากลองเขียน ตอนนี้ก็ยังตุ้บตั้บกับการวางพล็อต+ค้นคว้าค่ะ!
(เอเลเมนต์ที่อยากลองเขียน → อยากศึกษาเรื่องชุมชนเล็ก ๆ ในไทยจัง วางไว้ว่าพระเอกเป็นสายนักฆ่าระดับนานาชาติมาก่อน แต่พอโดนหักหลังแล้วต้องมาอยู่กับตัวเอก ก็กลายเป็นว่าได้ตะลุย local ในไทยแทน ผจญภัยผ่านชุมชนนักฆ่าหลากหลาย multi-cultural เป็นไอเดียตั้งต้นอย่างหนึ่งค่ะ)
เรื่องที่สอง (สุสาน) ไอเดียบรรเจิดเพราะโดนนักอ่านขายมา ฮา
ตอนนั่งคิด ภาพหมออีกาดำก็ผุดขึ้นมาในหัว เรื่องนี้เลยอยากลองเขียนเซตติ้งแฟนตาซีที่อ้างอิงยุโรปยุคกลาง เป็นช่วงที่ Black Death กำลังแพร่ระบาดอย่างหนัก ไม่ได้ลองเขียนอะไรที่ใช้ ข้า-เจ้า มานานมากกก แต่ก็ชอบค่ะ อิอิ
ด้วยไอเดียแรกที่คุณนักอ่านขายมานั้นดูเหมาะกับ 1 เล่มจบสั้น ๆ ฉาก 1-2 ฉาก แต่ช่วงนี้ลองค้นคว้าไปเรื่อย ๆ ก็พบว่ามันเหมาะขยายให้ยาวขึ้นนะ ดูมีอะไรให้เขียนมากมายเลย จากตอนแรกที่จะเปิดเรื่อง ทำชาเลนจ์เขียนให้จบสั้น ๆ ภายในเวลาแป๊บเดียวก็เป็นอันเลื่อนไปก่อนค่ะ 555 มองว่าจักรวาลร้องบอกให้ใจเย็น ลองรีเสิร์ชกับลองเขียนเล่นไปก่อนซิได้ไหมน้อ 5555
(ในระหว่างค้นคว้าก็พบเจอประเด็นน่าสนใจเยอะมาก เช่น การมาของกาฬมรณะทำให้ประเพณีการฝังศพเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กลายเป็นอะไรที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของผู้ป่วย/คนตายแทน ประเด็นระบาดวิทยาในยุคนั้นก็น่าสนใจ และถ้านำมาผูกกับความแฟนตาซีได้ก็น่าเขียนมาก ๆ ค่ะ!)
(แต่ตอนเขียนต้องตั้งสติมาก เพราะในฐานะคนเขียนคือเรารู้สาเหตุและวิธีรักษาโรคหมดแล้ว แต่ยุคนั้นเขายังไม่รู้ ยังเข้าใจอะไรผิด ๆ เขียนไปก็สูดยาดมไป ค่อยมารีไรต์/ตามแก้ทีหลังแล้วกันนะ…)
อันนี้เล่าแค่พล็อตใหม่ก่อน ในส่วน Void Trekker กับ Solo Player’s Friend ภาค 2 ก็มีไอเดีย+พล็อตแยกไปอีกต่างหาก ทางนี้ก็สลับจดไอเดียบ้าง ค้นคว้าบ้าง แต่ละเรื่องมาไม่พร้อมกันแล้วแต่เรื่องไหนจะเรียกตัว (?)
เล่าอีกอย่างคือ ปกติแต่ก่อนแค่คิดพล็อตได้ก็เปิดเรื่องเขียนแล้ว ไหลไปตามอารมณ์สุด 555 (ไม่ใช่วิธีที่ผิดนะคะ เราก็มองว่าเป็นสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเราในสมัยนั้น) แต่สมัยนี้ขอเวลาอยู่กับมันนานขึ้นอีกนิดดดด (ไม่นิดละ ค่อนข้างนานเลย…) พร้อมแล้วจะมาแชร์ให้อ่าน ระหว่างนี้ตั้งใจออกกำลังกาย จะได้แข็งแรง อยู่เขียนนิยายไปอีกนาน ๆ ฮา
สรุปว่าไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคตจะเป็นยังไง แต่เราจะขอใจเย็นและเขียนน้องหงส์ให้จบก่อนค่ะ 😆👍
ยังสู้ไหวค่ะ ยังสู้หวายยย /นอนตุย orz
เดือน 9-10 ค่อนข้างยุ่งกับงานหนังสือ แล้วพอยุ่งก็จะตั้งสมาธิไม่ได้ เพราะใจพะวงเรื่องงานอื่นตลอด เดี๋ยวงานเข้า ๆ ดังนั้นเลยแทบไม่ค่อยได้ปั่นต้นฉบับเลยค่ะ 🥲 (แต่อย่างน้อยก็เข็นดราฟต์ 1 ver.2 จนเสร็จได้แหละนะ…)
เดี๋ยวเดือน 11 ว่างทั้งเดือนแล้ว คิดว่าจะเข้าถ้ำยาว ๆ ค่ะ!